หน้าตาของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีความจุมากถึง 756 ล้านลูกบาศก์เมตร กินพื้นที่ 2 จังหวัดได้แก่ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และ ต.คำพราน อ.วังม่วง จังหวัดสระบุรี เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูฝนและขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ประโยชน์ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีหลากหลาย เช่น ใช้ในการเกษตรกรรม ประมง อุปโภคบริโภค ท่องเที่ยว รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ
แต่เนื่องจากปัญหาภัยแล้งในช่วงปีที่ผ่านมาจนมาถึงปีนี้ น้ำในเขื่อน ณ ปัจจุบัน เหลือเพียง 168 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียง 17% เท่านั้น วันนี้น้องใบไม้มีภาพถ่ายดาวเทียมของเขื่อนป่าสักฯ มาให้ดูกันนะครับ

ภาพขวา : ภาพสถาณการณ์น้ำในปัจจุบันของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (7 มีนาคม 2563)
ภาพทางซ้ายคือภาพของเขื่อนป่าสักที่เต็มความจุ จนเกิดกระแสข่าวให้ประชาชนขนของขึ้นที่สูงในช่วงปลายปี 2559 ส่วนภาคทางขวาคือสถาณการณ์ปัจจุบันของเขื่อนในขณะนี้นะครับ จะเห็นว่าช่วงด้านบนตามความยาวเขื่อนน้ำหายไปเป็นจำนวนมากเลยครับ เนื่องมาจากปลายปีที่ผ่านมาถึงจะเป็นช่วงฤดูฝน แต่ปริมาณน้ำฝนมีน้อย ส่งผลให้ต้นทุนน้ำในเขื่อนที่จะต้องนำมาใช้ในปีนี้จึงมีน้อยครับ
สำหรับพี่ ๆ เกษตรกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวจังหวัดลพบุรีและสระบุรีนะครับ จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนล่วงหน้าของรีคัลท์พบว่า ในช่วงครึ่งปีแรกปริมาณน้ำฝนจะกลับมาเป็นปกติ คือ มากกว่าปีที่แล้วแต่ก็ยังคงเป็นฝนของฤดูแล้งดังนั้นน้ำฝนจะไม่มากเท่าฤดูฝนนะครับ

ดังนั้นเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้องระวังเรื่องของหนอนกระทู้ข้าวโพดนะครับ เพราะในทุกปีที่พี่ ๆ เกษตรกรเคยปลูกนั้นยังไม่มีปัญหาของหนอนกระทู้เข้ามา แต่หนอนกระทู้เพิ่งจะเข้ามาในปีที่แล้ว บวกกับปัญหาแล้งหนักจึงทำให้ปีที่แล้วต้องไถทิ้งและเสียหายเป็นจำนวนมาก สำหรับในปีนี้ปัญหาเรื่องหนอนอาจจะเบาลง แต่เกษตรกรท่านใดไม่มีแหล่งน้ำเป็นของตัวเอง หากควบคุมหนอนกระทู้ไม่ได้อาจมีความเสี่ยงในเรื่องของการไถทิ้งนะครับ ดังนั้นจึงแนะนำให้ปลูกข้าวโพดในช่วงฤดูฝนจะปลอดภัยมากกว่านะครับ
สำหรับพี่ ๆ เกษตรกรภาคอื่น รอติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ อยากเห็นหน้าตาของเขื่อนไหนคอมเม้นบอกน้องใบไม้ได้เลยนะครับ หรือหากอยากดูคาดการณ์ปริมาณฝนล่วงหน้า สามารถโหลดดูผ่านแอปรีคัลท์บนมือถือได้เลยคร้าบบบบบ
ที่มาปริมาณน้ำในเขื่อน : https://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html